รังนกอีแอ่น

รังนกอีแอ่น

อีแอ่นกินรังและอีแอ่นตะโพกขาว ทำรังด้วยน้ำลายเป็นรูปถ้วยครึ่งซีกขนาดยาวตามขอบบนเฉลี่ย ๑๓.๓ เซนติเมตร ลึก ๕.๑  เซนติเมตร   มีน้ำหนัก  ๗-๑๐  กรัม   โดยนกทั้ง  ๒  เพศช่วยกันทำรังเฉพาะเวลากลางคืน ใช้เวลาในการทำรัง ๓๐-๓๕  วัน  และจะทำรังทดแทน  (re-nest) หากรังถูกทำลาย   โดยรังที่  ๒  ที่ทำใหม่มีขนาดเล็กลงมีน้ำหนักโดยเฉลี่ย  ๕-๗  กรัม และใช้เวลาในการทำรังน้อยลงด้วย   คือ  ๒๐-๒๕  วัน หากรังถูกทำลายอีกก็จะทำรังที่ ๓ ซึ่งจะมีขนาดเล็กกว่ารังที่ ๒ ไม่มาก น้ำหนักใกล้เคียงกัน   และใช้เวลาในการทำรัง  ๑๕-๑๗ วัน ตามปรกตินกชนิดนี้ทำรังเพียง ๓ รัง ถ้ารังที่ ๓ ทำลายก็จะไม่ทำรังใหม่อีก แต่จะมีลางทำรังที่ ๔ และที่  ๕  ได้

ช่วงเวลาที่นก  ๒  ชนิดนี้ทำรัง คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน โดยวางไข่เพียงรังละ ๒ ฟอง ระยะฟักไข่ ๒๒-๒๔  วัน ระยะเลี้ยงลูก ๕-๖ สัปดาห์ นกทั้งสองเพศจะช่วยกันฟักไข่และเลี้ยงลูกอ่อน ลูกอ่อนที่ฟักออกมามักมี  ๒  ตัว มีเพียงตัวเดียวที่เจริญเติบโตหรือมีชีวิตรอดจนกระทั่งบินได้  โดยขณะที่ลูกนกอีกตัวหนึ่งมักตาย  เนื่องจากขาดอาหาร หรืออาจถูกลูกนกอีกตัวหนึ่งซึ่งโตกว่าเบียดตกรังไป

ส่วนอีแอ่นหางสี่เหลี่ยมทำรังโดยใช้ขนนกเป็นวัสดุ ใช้น้ำลายเป็นตัวเชื่อมวัสดุให้ติดกัน รูปร่างของรังเป็นรูปถ้วย ขนาดโตกว่าของอีแอ่นกินรังเพียงเล็กน้อยน้ำหนักเฉลี่ยราว  ๓๐  กรัม หรือราว ๓ เท่าของอีแอ่นกินรัง อีแอ่นหางสี่เหลี่ยมนี้มีพฤติกรรมการทำรังทดแทนและการออกไข่ทดแทนเช่นเดียวกับอีแอ่นทำรังตะโพกขาวแต่วางไข่เพียงรังละ ๑ ฟอง และระยะเวลาทำรังกับออกไข่นั้นยาวนานกว่า

อีแอ่นทำรังทั้ง ๓ ชนิดดังกล่าว จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้งครองตามกฎหมาย อนึ่ง ในการเก็บรังนกนั้น ผู้เก็บต้องได้รับสัมปทาน กฎหมายให้เก็บรังนกได้ไม่เกินปีละ  ๓  ครั้ง การเก็บแต่ละครั้งให้เก็บพร้อมๆกัน   หลังจากเจ้าพนักงานตรวจตราแล้ว เนื่องจากการเริ่มต้นทำรังของนกแต่ละตัวไม่พร้อมกัน   ลางรังที่เก็บจะมีไข่หรือตัวอ่อนอยู่ด้วย  ซึ่งการเก็บรังที่มีไข่หรือตัวอ่อนแล้วนั้น นกจะไม่มีการทำรังใหม่ขึ้นมาทดแทน เป็นเหตุให้จำนวนอีแอ่นลดลง นอกจากนั้น การลดลงของอีแอ่นกินรังเกี่ยวข้องกับสารพิษตกค้างในตัวนก และสัตว์ผู้ล่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหยี่ยวต่างๆ งูเหลือม และ งูเขียว

 

ประโยชน์ของรังนก

ชนชาติจีนเป็นชนชาติที่นิยมบริโภครังนก เพราะเชื่อกันว่าเป็นอาหารชั้นยอด มีสรรพคุณบำรุงกำลังสำหรับผู้ป่วยเรื้อรังด้วยโรคต่างๆ เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้เกิดกำหนัด แต่ก็ทำให้เกิดเสมหะด้วย รังนกประเทศต่างๆ เช่น ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ จะถูกส่งไปขายในประเทศจีน รวมทั้งประเทศที่มีชุมชนจีนหนาแน่น ปีละมากๆ ชาวจีนเชื่อกันว่า รังนกจากไทยมีคุณภาพดีเยี่ยม จึงมีราคาแพงกว่ารังนกคุณภาพเดียวกันจากประเทศอื่น

ผลการวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารของรังนกพบว่า มีโปรตีนอยู่ร้อยละ ๕๔  คาร์โบไฮเดรตร้อยละ ๒๓.๓  น้ำร้อยละ ๑๖.๘  และสารอื่นๆ รวมทั้งแคลเซียม โพแทสเซียม   และฟอสฟอรัส อีกร้อยละ ๕.๙  นอกจากนั้นยังมีสารที่แสดงฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่เป็นคุณต่อร่างกายอีกหลายชนิด

 

รูปภาพจาก:เครื่องทําหมอก.com,collectadd.com