สมุนไพรปอบิด

สมุนไพรปอบิด

ชื่อพื้นเมืองอื่น ช้อ (กะเหรี่ยง – เชียงใหม่) ปอทับ ปอปิด (ภาคกลาง  ภาคเหนือ) บิด  มะปิด (พายัพ) ลูกปิด ชะมด (ภาคกลาง) หั่วสั่วหมา (จีนกลาง) ห้วยเสาะมั้ว (แต้จิ๋ว) เช้าจี (ลาว)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Helicteres iosra L.
ชื่อวงศ์  STERCULIACEAE
ชื่อสามัญ  East indian screw tree.

ลักษณะทั่วไปทางพฤกษศาสตร์   
ไม้พุ่มขนาดเล็ก (S) สูงประมาณ 2-3 เมตร ลำต้นกลมเรียวอ่อน ดูคล้ายเถา เปลือกของลำต้นมียางเหนียว และทุกส่วนของลำต้นจะมีขนขึ้นทั่วๆไป                                     
ใบ เป็นใบเดี่ยว ลักษณะใบรีค่อนข้างกลม โคนใบเว้าเข้าหากัน ปลายใบแหลม ริมขอบใบหยักเป็นแบบฟันปลา ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-3.5 นิ้ว ยาวประมาณ 4-8 นิ้ว หลังใบและใต้ท้องใบจะมีขนขึ้นประปราย เส้นแขนงใบมองเห็นชัดเจน ใบมีสีเขียวหม่น                                                                                                                                       
ดอก ดอกเป็นกระจุกประมาณ 2-3 ดอก ดอกจะออกระหว่างบริเวณต้นกับใบหรือที่ง่ามใบ ลักษณะของดอกกลีบมีสีส้ม หรือสีอิฐ ขนาดของดอกยาวประมาณ 2 ซม.             
ผล ลักษณะเป็นรูปฝัก บิดเหมือนเชือกควั่น มีขนาดยาวประมาณ 1-1.5 นิ้ว ผลเมื่อแก่เต็มที่มีเป็นสีน้ำตาล หรือสีดำ และผลนั้นก็จะแตกอ้าออก ผลออกประมาณเดือนธันวาคม – มกราคม

นิเวศวิทยา                                     
เป็นไม้ที่มักพบขึ้นตามบริเวณป่าเบญจพรรณ หรือที่รกร้าง

การปลูกและขยายพันธุ์                                     
เป็นไม้กลางแจ้ง ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ในดินทั่วๆไป ขยายพันธ์ุด้วยการเพาะเมล็ด

ส่วนที่ใช้ รส และสรรพคคุณ     
รากและเปลือกราก  รสฝาดเฝื่อน เป็นยาบำรุงธาตุ ขับเสมหะ
เปลือกลำต้น  รสฝาดเฝื่อน เป็นยาแก้โรคบิด ท้องร่วง และเป็นยาบำรุงธาตุ เป็นต้น
ผลหรือฝัก  รสฝาด เป็นยาแก้โรคบิด ท้องร่วง แก้ท้องอืด ขับเสมหะ แก้ปวดเบ่ง แก้ปวดเคล็ดบวม กระเพาะอาหารเป็นแผล หรืออักเสบเรื้อรัง เป็นต้น

วิธีใช้และปริมาณที่ใช้            
1. แก้ท้องร่วง โรคบิด โดยใช้ ผลแห้งประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มในน้ำสะอาด 500 ซีซี แล้วกรองเอาน้ำดื่ม ครั้งละ 250 ซีซี
2. ยาบำรุงธาตุ โดยใช้เปลือกลำต้นและราก รวมกัน 15-20 กรัม ต้มในน้ำ 1 ลิตร ประมาณ 10 นาที แล้วกรองเอาน้ำดื่มเช้า-เย็น

ข้อควรทราบ

  • เส้นใยของปอปิด มีลักษณะหรือคุณภาพเช่นเดียวกับปอแก้ว เส้นใย ที่ดีที่สุดจะต้องเป็นลำต้นที่มีอายุ ประมาณ 1-1.5 ปี

 

รูปภาพจาก:po-ga-bid.blogspot.com,doa.go.th,สมุนไพร