บทนำ

บทนำ

มนุษย์รู้จักใช้เครื่องยาจากสัตว์มาแต่โบราณ พร้อมๆกับที่รู้จักใช้พรรณไม้และแร่ธาตุเป็นยา การใช้สัตว์เป็นยาบำบัดโรคหรืออาการเจ็บป่วยของมนุษย์นั้นได้เกิดขึ้นและสั่งสม แล้วถ่ายทอดสืบมารุ่นแล้วรุ่นเล่า

สัตว์วัตถุหลายชนิดที่ใช้ประโยชน์ทางยามาแต่โบราณ ปัจจุบันได้รับการพิสูจน์และอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ว่าได้ผลจริงดังที่เชื่อกัน เช่น แพทย์แผนไทยรู้จักใช้ตับเป็ดตับไก่ในยาแก้โรคตาฟาง  ปัจจุบันวงการแพทย์สมัยใหม่รู้กันดีว่า ตับเป็ดตับไก่มีวิตามินเอ ซึ่งหากร่างกายขาดก็จะก่อให้เกิดโรคตาฟางยาหลายชนิดที่ได้จากสัตวชาติยังคงมีบทบาทมากในวงการแพทย์แผนปัจจุบัน หลายชนิดมีส่วนช่วยมนุษย์ไว้ ตัวอย่างเช่น ฮอร์โมนอินซูลินที่แยกสกัดได้จากตับอ่อนของหมูเคยใช้บรรเทาอาการผู้ป่วยโรคเบาหวาน วัคซีนต่างๆที่ใช้ป้องกันโรคต่างๆ   หรือเซรุ่มที่ใช้แก้พิษงูต่างๆนั้น ยังคงได้จากเลือดสัตว์ที่ถูกกระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อหรือต่อพิษงูนักอนุรักษ์พันธ์สัตว์หลายคนอาจเห็นว่า การใช้สัตววัตถุเป็นเครื่องยานั้นเป็นความโหดเหี้ยม ไม่พึงกระทำ เป็นการรังแกและทำลายชีวิตสัตว์ หากสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากสัตวชาติเหล่านั้น วันหนึ่งอาจทำให้สัตว์ลางชนิดหรือสูญพันธ์ไปจากธรรมชาติ โดยเฉพาะพันธ์สัตว์ที่มีประชากรน้อย (แต่มนุษย์มีความต้องการใช้ประโยชน์มาก) หรือพันธ์สัตว์ที่มีแนวโน้มว่าจะสูญพันธ์โดยการคัดเลือกจากธรรมชาติอยู่แล้วอย่างไรก็ตาม การที่มนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์หรือพืชผักธัญญาหารต่างๆ ก็เป็นการเบียดเบียน”สิ่งมีชิวิต” ด้วยกันอยู่แล้วมิใช่หรือในทางตรงกันข้าม   นักวิทยาศาสตร์ควรจักได้เร่งศึกษาว่า สัตววัตถุเหล่านั้นมีประโยชน์ในการบำบัดได้จริงตามที่เชื่อกันมา ตามที่รู้กันมาก็พึงเร่งถ่ายทอดผลการศึกษาให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมรับรู้เพื่อจักได้เลิกเชื่อเรื่องนี้เสียทีแต่หากสัตววัตถุเหล่านั้นยังให้คุณค่าต่อชีวิตมนุษย์ ก็พึงศึกษาต่อไป เพื่อจักได้หาวิธีจัดการให้ทรัพยากรสัตววัตถุ เหล่านั้นมีใช้อย่างยั่งยืนสืบไป

 

รูปภาพจาก:Siambiotech.com,wordpress.com