ประโยชน์ทางยาของเบี้ย

ประโยชน์ทางยาของเบี้ย

เบี้ยที่แพทย์แผนไทยใช้เป็นเครื่องยา  ได้แก่

  • เบี้ยผู้ เป็นหอยที่มีเปลือกหนาและแน่นรูปรีหรือรูปคล้ายชมพู ท้องยื่นเป็นผิวมัน ส่วนช่องปากยาวแคบ และไปสุดตอยปลายทั้ง ๒ ข้าง เป็นลำรางสั้นริมปากทั้ง ๒  ด้านเป็นหยักหรือมีฟัน ไม่มีฝาปิด หอยพวกนี้เป็นหอยเคลื่อนไหวช้าพบมากในทะเลเป็นเขตอบอุ่น กินตัวอ่อนของกะรังเป็นอาหาร พบได้ในท้องทะเลของประเทศไทย

เบี้ยที่ผู้ใช้ทางยานี้เป็นเปลือกหอยขนาดเล็ก รูปไข่หรือรูปไข่กลับ หัวท้ายมนป่องกลาง ส่วนกว้างที่สุดราว ๑ เซนติเมตร ยาวได้ราว ๒ เซนติเมตร ด้านหลังมีขอบยกสูงกว่าตรงกลาง จัดเป็นเบี้ยหายากราคาค่อนข้างแพง

แพทย์แผนไทยเอาเบี้ยผู้มาเผาให้โชน ผสมกับพิมเสนออย่างดี ใช้โรยแผล กัดฝ้าละออง หรือใช้กินเป็นยาขับลมในลำไส้ ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ ในคัมภีร์ปฐมจินดาร์ให้ยา ๒ ขนานที่เข้า “เบี้ยผู้เผา” ขนานหนึ่งคือ “ยากวาดเจียระไนเพ็ชร์” ส่วนอีกขนานหนึ่งคือ “ ยาแก้ชักเส้นกระเหม่นตัว “  ดังนี้

ยาแก้ชักเส้นกระเหม่นตัวขนานนี้ ท่านให้เอา
รากมะกล่ำเครือ  ๑
รากหญ้านาง  ๑
รากกรุงเขมา  ๑
ข่าแก่  ๑
รากผู้เผา  ๑
รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ทำเป็นจุณ บดปั้นแท่งไว้ ละลายน้ำกินหาย

พระคัมภีร์มหาโชตรัต ให้ยา ๒ ขนานนี้เข้า “ เบี้ยผู้เผา “ เช่นเดียวกัน ขนานหนึ่งเป็นยาขับโลหิตสำหรับสตรี ดังนี้ ถ้าหญิงคลอดบุตรโลหิตนั้นกลับแห้งไป ท่านให้แต่งยานี้ ให้เอา
แก่นแสมทั้ง  ๒
หญ้าพันงูแดง  ๑
หญ้าพันงูขาว  ๑
ผักโหมหิน  ๑
รากสแก  ๑
หัวบุก  ๑
เบี้ยผู้เผา  ๑๒  เบี้ยแช่สุรากินให้มดลูกแห้งแล

 

รูปภาพจาก:taxclinicthailand.com,pp-naturecare.com